หลายคนสงสัยและถามกันมาว่าทำไมกาแฟเพื่อสุขภาพในงานแสดงสินค้าต่างๆ หลายรายจำหน่ายได้ในราคาถูกมากๆ บางกล่องหรือบางซองบรรจุ 10-15 ซองในราคาร้อยหรือร้อยกว่าบาทเท่านั้น กาแฟสุขภาพแต่ละเจ้าต่างกันอย่างไร แล้วเราจะมีวิธีเลือกกาแฟเพื่อสุขภาพกันอย่างไรเพื่อให้ตรงตามความต้องการและได้กาแฟคุณภาพดีค่ะ
1. กาแฟสุขภาพที่ปลอดภัยและได้มาตราฐาน ควรมีเครื่องหมาย อย. และระบุเลข อย.ข้างกล่อง ที่ชัดเจน สามารถตรวจสอบเลขทะเบียนว่าถูกต้องได้ทางเว็บไซต์ของสำนักงานอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข
2. สารสำคัญหลายอย่าง โดยเฉพาะสมุนไพรที่นำมาใส่เป็นส่วนผสมในกาแฟสมุนไพรต่างๆ ควรผ่านการวิเคราะห์โลหะหนัก ตรวจสอบปริมาณของเชื้อ และผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อเรียบร้อยก่อนนำมาใช้เป็นสารสำคัญเพื่อป้องกันเชื้อราหรือเชื้ออื่นๆ ที่อาจปนเปื้อนมากับสมุนไพรระหว่างการเก็บเกี่ยวหรือเก็บรักษา
3. พันธุ์หรือชนิดของกาแฟที่นำมาทำกาแฟสุขภาพ ว่าเป็นกาแฟอาราบิก้า โรบัสต้า หรืออื่นๆ ที่ให้ความหอมเข้ม หรือประโยชน์ของกาแฟนอกเหนือไปจากสารสำคัญอื่นๆ ที่ใส่ลงไปในกาแฟเพื่อสุขภาพค่ะ เนื่องจากมีกาแฟสุขภาพหลากหลายยี่ห้อในท้องตลาดที่ผลิตกาแฟจากพืชอื่นๆ ที่ไม่ใช่กาแฟแต่ให้รสชาติเหมือนกาแฟ เช่น เม็ดมะขามคั่ว
4.สารสำคัญที่เป็นส่วนผสมในกาแฟเพื่อสุขภาพ มีสารออกฤทธิ์กี่เปอร์เซนต์และนำมาจากแหล่งใดค่ะ ส่วนใหญ่ประเด็นนี้จะพบมากกับกาแฟที่มีสมุนไพรเป็นส่วนผสม เช่น กาแฟโสม กาแฟกระชายดำ กาแฟกวาวเครือ เนื่องจากแหล่งของวัตถุดิบสมุนไพรแต่ละทีก็ให้สารออกฤทธิ์หรือสารสำคัญที่ต่างกันในราคาที่ต่างกันมากเป็นหลักร้อย หลักพัน หรือบางทีเป็นหลักแสนกันเลยทีเดียวค่ะ
5. มาตราฐานของโรงงานที่ผลิตและบรรจุว่ากาแฟเพื่อสุขภาพที่เลือกซื้อผลิตจากโรงงานไหน ได้มาตราฐานการผลิตอย่างไรค่ะ เพราะกระบวนการผลิตและบรรจุส่งผลต่อคุณประโยชน์ ความชื้น การเก็บรักษา และปริมาณของเชื้อที่ตรวจพบในกาแฟค่ะ
นอกจากความอร่อยแล้ว เลือกกาแฟสุขภาพให้ปลอดภัย ได้คุณภาพ อย่าลืมมองฉลากหรือสอบถามผู้ขายในประเด็นต่างๆ นะคะ