Astaxanthin - The King of Antioxidant แอสตาแซนทีน
แอสตาแซนทีนเป็นสารในตระกูลแคโรทีนอยด์ พบได้ใน สาหร่ายสีแดง Haematococcus Pluvialis ร่างกายไม่สามารถสร้างสารชนิดนี้ได้ แอสตาแซนทีนมีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระเหนือกว่าตัวอื่นๆ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีความแรงที่สุดในปัจจุบัน คือ “แอสตาแซนทีน” มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ ได้แรงกว่าวิตามินซี 6000 เท่า แรงกว่าโคเอมไซม์คิวเท็น 800 เท่า แรงกว่าวิตามินอีและชาเขียว 550 เท่า แรงกว่ากรดแอลฟาไลโปอิก 75 เท่า แรงกว่าเบต้าแคโรทีน 40 เท่า และแรงกว่าสารสกัดจากเมล็ดองุ่น 17 เท่า คุณสมบัตินี้เกิดจากโครงสร้างทางโมเลกุลที่จำเพาะของแอสตาแซนทีน ทำให้สามารถปกป้องผนังเซลล์ทั้งด้านในและด้านนอก เปรียบเสมือนทหารที่คอยปกป้องเซลล์ จึงมีส่วนสำคัญ ทำให้คอลลาเจนและอิลาสตินถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์ เป็นผลให้เซลล์ผิวแข็งแรง และประโยชน์อีกหลายอย่างทางด้านสุขภาพ เช่น เพิ่มความทนทานของกล้ามเนื้อสุขภาพตา เป็นต้น แอสตาแซนทีนกับการชะลอวัย มีผลการวิจัยที่แสดงให้เห็นชัดว่า การรับประทานแอสตาแซนทีน ขนาด 4 มิลลิกรัมต่อเนื่องกัน 6 สัปดาห์ ในหญิงวัยกลางคน โดยผลทางด้านริ้วรอย ความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่น ของผิวของผู้เข้าร่วมการทดลองรับประทานแอสตาแซนทีน กับผู้ที่ไม่ได้รับประทานแอสตาแซนทีน พบว่ากลุ่มที่รับประทานแอสตาแซนทีน ผลของริ้วรอยแลดูจางลง ความชุ่มชื้น และ ความยืดหยุ่นของผิวมากขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ 3 และเห็นผลอย่างมีนัยสำคัญเมื่อสัปดาห์ที่ 6 (ผลลัพธ์แตกต่างกันแล้วแต่บุคคล) ซึ่งอาจเป็นผลจากแอสตาแซนทีนที่สามารถปกป้องการทำลายของคอลลาเจนที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ ได้ ผลทางด้านความปลอดภัย มีการทดลองทางคลินิก โดยการรับประทานแอสตาแซนทีนมาถึง 45 มิลลิกรัมทุกวัน เป็นเวลา 4 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยไม่พบผลข้างเคียงใดๆ (ผลลัพธ์แตกต่างกันแล้วแต่บุคคล) และจากการทดสอบสารเคมีในเลือด และปัสสาวะ ไม่พบความปกติใดๆ การค้นหาเอกสารทางวิชาการทั่วโลกนั้นไม่พบรายงานที่มีผลข้างเคียงในทางลบ
สนับสนุนข้อมูลจาก BiO-LiFE Thailand